อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ลำปาง

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ลำปาง

          หนาวนี้ไปกางเต็นท์ แช่น้ำแร่กันที่แจ้ซ้อน ลำปาง แจ้ซ้อนตั้งอยู่ที่ ต.แจ้ซ้อน  อ. เมืองปาน  จ. ลำปาง มีเนื้อที่ประมาณ 480,000 ไร่ มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีสัตว์ป่านานาชนิด เหมาะสำหรับการพักผ่อนชาร์จพลัง สูดอากาศ บริสุทธิ์ให้เต็มบอดในวันหยุดยาว ก่อนลุยงาน
          ออกมาจากเชียงใหม่ประมาณบ่ายสองครับ ขับรถมาเรื่อยๆ ไปทางลำปาง เมื่อถึงแยก อ.ห้างฉัตร จะมีป้ายบอกเลี้ยวซ้าย ไปทางอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มาถึงอุทยานๆเย็น หาที่กางเต็นท์กันก่อนเลย

ที่พักแจ้ซ้อน

          สามารถเลือกที่พักได้หลายรูปแบบตามใจชอบ ชอบนอนสบายก็บ้านพักของอุทยาน ชอบแนวลุยๆ ต้องนอนเต็นท์ครับ ใครที่ไม่เตรียมอะไรมาเลย มีให้เช่าทุกอย่าง เริ่มกางเต็นท์กันเลยครับเริ่มเย็นแล้ว


ตื่นแต่เช้าเลย บรรยากาศตอนเช้าสดใส เตรียมตัวไปอาบน้ำแร่กันครับ เปิดให้อาบประมาณ 8.30 – 18.00 น.

ห้องอาบน้ำแร่ส่วนตัวครับ ค่าบริการคนละ 50 บาท หนาวๆ อาบน้ำแร่อุ่นๆ ฟินสุดๆ

อาบน้ำเสร็จแล้ว ไปหาไข่ต้มทานกันที่น้ำพุร้อน คนขายไข่ต้มบอกว่าต้มไข่ประมาณ 15-17 นาทีไข่แดงจะแข็ง ไข่ขาวจะเหลว ลุยๆๆๆ

บริเวณน้ำพุร้อนอุณหภูมิประมาณ 82 องศา

เมื่อท้องอิ่มเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติกัน เดินเที่ยวน้ำตกแจ้ซ้อน

จากทางเข้าน้ำตกต้องเดินไปอีก 200 เมตร

มาถึงแล้วครับ บริเวณน้ำตกจะมีบันใดขึ้นไปด้านบนน้ำตก จะมีทั้งหมด 6 ชั้น





บ่ายๆก็เดินทางกลับเชียงใหม่ครับ
 ติดตามที่เที่ยวได้ที่นี่ครับ >>> อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

ล่องแพไม้ไผ่ลำน้ำแม่แตง เที่ยวปางช้างแม่ตะมาน เชียงใหม่

        

ล่องแพไม้ไผ่ลำน้ำแม่แตง เที่ยวปางช้างแม่ตะมาน เชียงใหม่ ยาม ฝนพรำ เมฆกรองแดดแบบนี้น่าเที่ยวชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งลำน้ำแตงเป็นที่สุด ลมไม่แรง แสงแดดไม่ร้อน พายแพไผ่ได้ทุกวัย ไม่มีแก่งคลื่นดุดัน ตบท้ายด้วยการเที่ยวชมการแสดงที่ปางช้างแม่ตะมาน หากยังอยากเดินทางไปเที่ยวปายก็ยังไหว


          
ปางช้างแม่ตะมาน ปาง ช้างแม่ตะมานตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แตง บนพื้นที่กว่า 25 ไร่ โอบล้อมด้วยธรรมชาติของทิวเขา สายน้ำ และวัฒนธรรมชาวท้องถิ่นชนบท ระยะเวลามากกว่า 10 ปีที่ปางช้างเปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมและทำกิจกรรมร่วม กับช้างไทยใจดี ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2530 จากช้าง 10 เชือก บัดนี้ปางช้างแม่ตะมานมีช้างทั้งหมด 60 เชือก เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาชมการแสดง ช้าง นั่งช้าง และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขาเผาลีซอ ล่องแพไม้ไผ่ในลำน้ำแม่แตง และเดินป่าระยะสั้น
          ช้างไทย เคยเป็นสัญลักษณ์บนผืนธงสีแดงของชาติไทยก่อนหน้าผืนธงไตรรงค์ในปัจจุบันนี้ ช้างเป็นสัตว์มีความความผูกพันกับชาวไทยมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ คนกับช้าง และช้างกับควาญ จึงอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดตลอดมา เด็กไทยทุกคนรู้จักเพลง ช้าง เป็นอย่างดี
          ปาง ช้างแม่ตะมานเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 - 15.00 น. มีกิจกรรมหลากหลายไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เปิดให้บริการทุกวัน
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ (053) 297060, 297283 โทรสาร (053) 297283
          การแสดงช้าง ใช้เวลาประมาณ 50 นาที เริ่มการแสดงรอบปกติเวลา 09.40 - 10.30 น. รอบพิเศษเวลา 08.30 - 09.20 น. และรอบบ่ายสำหรับการจองเป็นหมู่คณะ (รายละเอียดรอบการแสดง กรุณาโทรสอบถามเพิ่มเติม) จะได้พบกับความสามารถอันหลากหลายของช้างนักแสดง
          - เปิดการแสดงด้วยขบวนช้างนักแสดง ถือป้าย  ยินดีต้อนรับ  และทำท่าสวัสดี แสดงความเคารพผู้ชม
          - แสดง ความคุ้นเคยและการสื่อสารระหว่างควาญช้างกับช้าง โดยให้ช้างปฏิบัติตามคำสั่งของควาญ เช่น ให้ช้างนั่ง นอน หรือย่อตัวเพื่อให้ควาญช้างขึ้นลง
          - ช้างแสดงการเล่นอุปกรณ์เครื่องดนตรีและการเต้นเข้าจังหวะ
          - ช้างออกกำลังกาย โดยการโยนลูกบอลเข้าห่วง และการแตะลูกฟุตบอลเข้าตาข่าย
          - ช้างแสดงความแสนรู้ ด้วยการเดินสองขาและใช้ง่วงใส่หมวก ให้ควาญ เก็บของโยนลงตะกร้า การนวดให้คนด้วย การแตะเท้าและง่วงอย่างเบาๆ
          - แสดงวิธีการทำงาน ด้วยการเก็บโซ่พันคอช้างด้วยตัวช้างเอง และการชักลากซุงแล้วนำไปเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ
          - ช้างแสดงความสามารถพิเศษ ด้วยการวาดรูป ที่ค่อยๆ บรรจงตวัดพู่กันลงบนกระดาษมูลช้าง จนออกมาเป็น รูปต้นไม้ที่มีดอกไม้บาน
          - ปิดการแสดงด้วยขบวนช้างนักแสดง ถือป้ายแสดงคำว่า ขอบคุณ และหลังจากนั้น ก็เปิดโอกาสให้ผู้ชมเข้าไป ใกล้ชิดกับช้างได้

 ติดตามที่เที่ยวได้ที่นี่ครับ >>> เที่ยวที่ใหน

ดอยอ่างขาง

สะพาย เป้เที่ยวดอยอ่างขาง หน้าฝน 2 วัน 1 คืน ดอยอ่างขาง ตั้งอยู่บนทิวเขาแดนลาว ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร เป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “ให้เขาช่วยตัวเอง” เปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาวที่สร้างรายได้ดีกว่าเก่า ก่อน

การเดินทางดอยอ่างขาง

          การเดินทางมีให้เลือกหลายแบบ แบบแรกโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวซึ่งมี 2 เส้นทาง เส้นทางแรกเดินทางจากตัวเชียงใหม่ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-ฝาง เมื่อผ่านเข้าเขตอำเภอเชียงดาว บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 79 จะพบทางแยกทางหลวงหมายเลข 1178 เลี้ยวซ้ายผ่าน ต.เมืองงาย ผ่านบ้านอรุโณทัย เส้นทางค่อนข้างแคบแต่ไม่ลาดชัน เส้นทางที่สอง ขับรถมาตามเส้นทางเชียงใหม่-ฝาง เมื่อผ่านเข้าเขตอำเภอเชียงดาว บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 79 จะพบทางแยกทางหลวงหมายเลข 1178 เลี้ยวซ้ายผ่าน ต.เมืองงาย ผ่านบ้านอรุโณทัย เส้นทางค่อนข้างแคบแต่ไม่ลาดชัน เส้นทางที่สอง ขับรถมาตามเส้นทางเชียงใหม่-ฝาง มาเรื่อยๆจนมาถึง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 137 เลี้ยวซ้ายผ่าน วัดหาดสำราญ ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1249 ซึ่งการเดินทางค่อนข้างลาดชัน 

          หากต้องเดินโดยรถเมล์หรือรถตู้ จะสามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งช้างเผือก จะมีรถทัวร์ สายเชียงใหม่ - ฝาง หรือ เชียงใหม่ - ท่าตอน ราคา 85 บาทรถตู้ สายเชียงใหม่ - ฝาง หรือ เชียงใหม่ - ท่าตอน   ราคา 150 บาท บอกคนขับรถว่าลงรถหน้าวัดหาดสำราญ พอลงรถหน้าวัดหาดสำราญแล้ว เดินเข้าไปในวัด จะมีคิวรถสองแถวสีขาว รับนักท่องเที่ยวขึ้นดอยอ่างขาง

ราคาเหมารถสองแถว                   เหมา ไป - กลับ 1,200 บาท
                                              เหมาไป – พักค้าง 1 คืน 1,400 บาท
                                              เหมาไป – พักค้าง 2 คืน 1,700 บาท
ราคาเหมารถตู้                            เหมา ไป - กลับ 1,800 บาท
                                              เหมาไป – พักค้าง 1 คืน 2,000 บาท
                                              เหมาไป – พักค้าง 2 คืน 2,300 บาท

หาก เพิ่มไปเที่ยว หมู่บ้านชาวเขานอแล หมู่บ้านชาวเขาเพิ่มอีกคันละ 300 บาทต่อคันทั้งสองแถวและรถตู้   รถหนึ่งคันนั่งได้ 10 คน ซึ่งสามารถโทรถามข้อมูล 086-1947484 ติดต่อคุณส้ม และ 087-1905689 ติดต่อคุณพูนศักดิ์

เที่ยว ดอยอ่างขางในวันหยุด เริ่มต้นเดินทางโดยรถตู้สู่ดอยอ่างขางพร้อมสัมภาระ 2 วัน 1 คืน ไปซื้อตั๋วที่รถตู้จะอยู่ด้านหลังของท่ารถช้างเผือก ราคา 150บาทเที่ยวรถตู้จะออกทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6.00 น.-17.00 น.

นั่ง รถตู่ออกจากเชียงใหม่ 9 โมงเช้ามาถึงทางแยกดอยอ่างขางใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ลงรถที่แยกดอยอ่างขางเดินเข้าไปในวัดหาดสำราญไปติดต่อคิวรถสองแถว

เส้นทางขึ้นดอยอ่างขาง ชมธรรมชาติอันแสนงดงาม อากาศเย็นสบาย ข้างทางผ่านหุบเขาสวยงามมากครับ มีหมอกปกคลุมตลอดเส้นทาง

และแล้วก็มาถึงดอยอ่างขาง ใช้เวลา 1 ชั่งโมงครับมาถึงบ่ายโมงกว่าๆ หาที่พักกันก่อนเลยครับ

ที่พักดอยอ่างขาง

ถามข้อมูลจากพี่คนขับรถสองแถวแนะนำให้มาพักที่ บ้านพักสุวรรณภูมิ ราคาตั้งแต่ 400-800 บาท

ห้องพักพักได้ 4 คน สำหรับมาเป็นครอบครัว

ห้องพัก พักได้ 2 คนสำหรับคู่หนุ่มสาว

วิวบรรยากาศหลังห้องครับ มองไปจะเห็นทางเข้าโครงการหลวงดอยอ่างขางและบริเวณหมู่บ้านร้านค้าต่างๆ

เมื่อได้ที่พักแล้วก็เริ่มหิวละครับ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง หาอะไรอร่อยๆ ทานกันก่อน

มื้อเย็นไปที่ร้าน ถิง ถิง โภชนา

วัน ที่ 2 เข้าไปเที่ยวในโครงการหลวงดอยอ่างขาง ตอนเช้าหาอะไรทานก่อน อากาศหนาวๆก็ต้องนี้เลยอาหารเช้าไข่กระทะ เมื่อทานเลร็จแล้วก็ลุยต่อครับ
 

โครงการหลวงดอยอ่างขาง

ให้พี่คนขับรถสองแถวแนะนำที่ท่องเที่ยวด้านในโครงการหลวงดอยอ่างขางมีค่าเข้าชมด้วยนะครับ คนละ 50 บาท และรถยนต์คันละ 50 บาท

โรงงานชาอ่างขาง เข้าไปดูการทำใบชา อบชา และชิมชาด้วยครับ ชิมฟรีครับ ซื้อเสียตัง มีทั้งชาแดง ชาเขียว ชาอู่หลง ในราคาไม่แพง

จากนั้นไปเที่ยวต่อที่ สวน 90 ช่วงที่ไปหน้าฝนครับ ดอกไม้ยังไม่ออกเติมที่ แต่สวยงามใช่ได้เลยครับ

ฝั่งตรงข้ามสวน 90 จะเป็นสโมสรอ่างขางครับ ด้านในจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ โปสการ์ด และของฝาก
 
อากาศหนาวๆ ขอกาแฟร้อน โกโก้อุ่นๆ ขนมปังสักชิ้นครับ หายหนาวไปเลย

ไปต่อครับ ที่แปลงเกษตรสาธิต มีพืชต่างที่เราไม่รู้จักมากมาย

เที่ยวจนเหนื่อยแล้วก็ถึงเวลาต้องกลับแล้วครับ ก่อนกลับแวะร้านอาหารจีน สุกี้ยูนาน บ้านยาง
 
เมื่อท้องอิ่มพร้อมเดินทางกลับเชียงใหม่ครับ

ติดตามที่เที่ยวได้ที่นี่ครับ >>> ดอยอ่างขาง